วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การศึกษาภาวะผูนำของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan Studies)

นำเสนอโดย นักศึกษาป.โท ม.กรุงเทพธนบุรี รุ่น 2 ศูนย์ท่าตูม กลุ่มที่ 6 มีดังนี้
1.นางโชติรส สาคะริชานนท์ เลขที่ 48
2.นางสาวดารณี กลิ่นหอม เลขที่ 10
3.นางสาวชัยทอง นิลจันทร์ เลขที่ 8
การศึกษาภาวะผู้นำของมหาวิทยาลัยมิชิแกน มุ่งเน้นหาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมของผู้นำกับกระบวนการกลุ่ม และผลการปฏิบัติงานของกลุ่ม ซึ่งผลงานของกลุ่มจะใช้เป็นเกณฑ์ในการแยกผู้นำที่มีประสิทธิภาพ และผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือมีประสิทธิภาพน้อยการศึกษาสรุปพฤติกรรมผู้นำเป็น 3 แบบ
1) พฤติกรรมมุ่งงาน (Task-Oriented Behavior) ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจะไม่ใช้เวลาและความพยายามในการทำงานเหมือนกับผู้ใต้บังคับบัญชาแต่จะมุ่งไปที่ภาระหน้าที่ของผู้นำซึ่งได้แก่การวางแผน การจัดตารางการทำงาน ช่วยประสานกิจกรรมต่างๆ ของผู้ใต้บังคับบัญชาจัดหาวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ รวมทั้งเทคนิควิธีการทำงานยิ่งกว่านั้น ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจะแนะนำให้ลูกน้องตั้งเป้าหมายของงานที่ท้าทาย และเป็นไปได้
2) พฤติกรรมมุ่งความสัมพันธ์หรือมุ่งคน (Relationship-Oriented Behavior)ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจะเป็นผู้นำที่ห่วงใย สนับสนุน และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งยังศรัทธาเชื่อมั่น และ มีความเป็นเพื่อน พยายามเข้าใจปัญหาของลูกน้อง ช่วยให้ลูกน้องมีการพัฒนาในอาชีพและสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จ
3) ภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วม (Participative Leadership) Rensis Likert และสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยมิชิแกนทำการวิจัยด้านภาวะผู้นำ ได้เสนอว่าการนิเทศหรือติดตามดูแลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาควรกระทำโดยใช้กลุ่มนิเทศงานจะดีกว่าจะนิเทศคนเดียว
ภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วม คณะวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Participative Leadership)

การศึกษาภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วม ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับกระบวนการตัดสินใจ โดยผู้นำมีแนวโน้มจะเปิดโอกาสให้บุคคลอื่นมาร่วมในการตัดสินใจหรือให้มีอิทธิพล ในการตัดสินใจของผู้นำ เช่น การปรึกษา การร่วมตัดสินใจ
1) การตัดสินใจแบบเผด็จการ
2) การตัดสินใจแบบปรึกษา
3) การร่วมกันตัดสินใจ
4) การมอบหมายให้ตัดสินใจ

สรุปคุณประโยชน์ของการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วม
1. ช่วยปรับปรุงคุณภาพของการตัดสินใจ (improved decision quality
2. เพิ่มการยอมรับผลการตัดสิน (greater acceptance of decisions)
3. เพิ่มความเข้าใจในเหตุผลของการตัดสินใจ (better understanding of decisions)
4. พัฒนาทักษะการตัดสินใจของผู้ใต้บังคับบัญชา (development of decision -making skills)
5. ช่วยให้งานของผู้ใต้บังคับบัญชามีความหมายมากขึ้น (enrichment of subordinate jobs)
6. ลดความขัดแย้งและสร้างทีมงาม (facilitation of conflict resolution and team building)

ที่มา : ยุทธนา พรหมณี. ทฤษฎีภาวะผู้นำ.
ที่มา : ครูอภิชัย บอกกล่าวการนิเทศการศึกษา :เว็บไซด์ http://gotoknow.
org/blog/oodapichai/201638
อ้างอิง สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2544). ภาวะผู้นำ : ทฤษฎีและปฏิบัติ. เชียงราย : สถาบันราชภัฏ
เชียงราย. หน้า 22-55, 97-152, 254-293, 301-339.

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

โรงเรียนของฉัน

โรงเรียนของเราน่าอยู่
คุณครูใจดีทุกคน